image
ค่านิยม :
ซื่อสัตย์ มีวินัย เป็นมืออาชีพ มีความเที่ยงธรรม และประพฤติตนเป็นที่ชื่นชมของบุคคลทั่วไปฯ.
image
วิสัยทัศน์ :
เราคือส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของความพร้อมรบ และความสำเร็จในภารกิจของกำลังรบฯ.
 
Octheader

 

 

 10 วิธี สุดยอดประหยัดพลังงาน :

minerceo smสวัสดีครับ ชาวสรรพาวุธทุกท่าน คงจะไม่เป็นการสายเกินไปที่เราจะเริ่มต้นช่วยกันประหยัดพลังงานเพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายของกองทัพเรือและของกรมสรรพาวุธทหารเรือ เพื่อสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการลดใช้พลังงานให้กับข้าราชการและบุคลากร ทางคณะทำงานย่อยรณรงค์ประหยัดพลังงาน จึงขอเชิญชวนให้ชาวสรรพาวุธ ร่วมไม้ร่วมมือช่วยกันประหยัดพลังงาน ลดมลภาวะโลกร้อน เพื่อลดการนำเข้าพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อพลังงานของตัวท่านเอง คณะทำงานจะสรรหาวิธีการประหยัดพลังงานตามแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อมาบอกเล่าผ่านแผ่นประชาสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่ง จะได้เป็นการกระตุ้นเตือน และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หวังว่าสื่อประชาสัมพันธ์นี้ จะทำให้พวกเราชาวสรรพาวุธจะไช้พลังงานอย่างรู้ค่ามากขึ้นกว่าเดิม หากมีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ คณะทำงานย่อยฯ ก็พร้อมจะน้อมรับและปรับปรุง สำหรับฉบับแรกนี้ ขอเสนอวิธีประหยัดไฟฟ้า แบบได้ผลสูงสุด 10 วิธี

 10 วิธีประหยัดไฟฟ้า แบบได้ผลสูงสุด

วิธีต่อไปนี้ จะช่วยเราประหยัดพลังงานและพลังเงินของเราโดยไม่ต้องลงทุน หลายวิธีที่จะกล่าวถึงนี้ อาจเป็นวิธีง่ายๆ ที่เราคิดไม่ถึงหรือเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเราพร้อมใจกันปฏิบัติอย่างถูกต้อง จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ

1. ปิดพัดลมระบายอากาศเมื่อไม่จำเป็น
พัดลมระบายอากาศนี้มีความจำเป็น หากเป็นห้องที่มีคนใช้งานหรือมีกลิ่น แต่หากเป็นห้องที่มีคงใช้งานไม่มาก และไม่มีกลิ่นรบกวน ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ
2. ตั้งปิดจอคอมพิวเตอร์ เมื่อไม่ใช้งาน
ความร้อนจากเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นภาระมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเครื่องปรับอากาศ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหนึ่งเครื่อง จะปล่อยความร้อนออกมาโดยประมาณ 250 วัตต์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นความร้อนจากจอประมาณ 180 - 200 วัตต์ โดยปกติแล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่ได้ถูกใช้งานตลอดเวลา ดังนั้นผู้ผลิตโปรแกรม จึงมีส่วนที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมให้จอปิดอัตโนมัติ เมื่อไม่สัมผัสคีย์บอร์ดหรือเมาส์ในเวลาหนึ่ง
3.ตั้งอุณหภูมิ 28 องศาเซนเซิยส แล้วเปิดพัดลมเสริม
ความเย็นสบายเชิงความร้อน เกิดขึ้นได้จากการมีปัจจัยหลัก 3 ประการสมดุลกัน คือ
  1. อุณหภูมิ
  2. ความชื้นสัมพัทธ์
  3. ความเร็วลม
หากต้องการระดับความสบายเท่าเดิม เมื่อปัจจัยหนึ่งเปลี่ยน ก็สามารถเปลี่ยนปัจจัยอื่นเป็นการทดแทนได้ การตั้งอุณหภูมิในห้องสูงขึ้น จะประหยัดพลังงานได้ โดยปกติแล้วก็จะตั้งได้สูงสุดประมาณ 25 - 26 องศา มิฉะนั้นจะร้อนเกินไป แต่ถ้าเราเปิดพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลมในห้อง เราจะสามารถตั้งอุณหภูมิได้สูงถึง 28 - 30 องศา โดยยังเย็นสบายเหมือนเดิม
4. นำตู้มาตั้งชิดผนังด้านตะวันออกหรือตะวันตก
ผนังด้านที่มีความร้อนเข้ามามากที่สุดคือ ด้านตะวันออกและตะวันตก นอกจากความร้อนที่ผ่านผนังเข้ามาแล้ว เวลาที่แสงอาทิตย์ส่องถูกผนังจะทำให้ผนังมีอุณหภูมิร้อนขึ้นมาก และจะแผ่รังสีความร้อนมาสู่ตัวคน ซึ่งจะทำให้คนรู้สึกร้อนขึ้น แม้อุณหภูมิในห้องจะเท่าเดิม ในห้องที่มีสภาพนี้จะต้องตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ประมาณ 21 - 22 องศา จึงจะรู้สึกเย็นสบาย แต่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น การนำตู้ไปตั้งชิดผนัง จะช่วยป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ ในห้องที่ผนังห้องไม่ร้อน การตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา ก็จะเย็นสบายเพียงพอ นอกจากป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังแล้ว การมีตู้ตั้งชิดผนัง ยังเสมือนว่ามีผนังหนาขึ้น จึงเป็นการช่วยลดความร้อนที่ผ่านผนังเข้ามาได้ด้วย
5. ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้ และอย่าเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้เมื่อปิดแอร์
ระบบปรับอากาศ(แบบน้ำเย็น) ใช้พลังงานประมาณ 1 หน่วยต่อตันต่อชั่วโมง ตัวอย่างเช่นเครื่องปรับอากาศขนาด 5 ตัน เปิดใช้งาน 4 ช.ม. จะใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1x5x4= 20 หน่วย คิดเป็นเงินประมาณ 20x3= 60 บ.(ค่าไฟเฉลี่ย 3 บ.ต่อหน่วย)ในอาคารทั่วไปๆ ค่าไฟฟ้าที่จ่ายไปกว่าครึ่งหนึ่งเป็นค่าไฟของระบบปรับอากาศ การปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้ห้องปรับอากาศจะสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ในขณะที่ปิดเครื่องปรับอากาศนั้น จะต้องไม่เปิดประตูหรือหน้าต่างทิ้งไว้ มิฉะนั้นความร้อนและความชื้นจากภายนอกจะเข้าไปในห้องปรับอากาศและจะสะสมอยู่ที่ พื้น, ผนัง,เฟอร์นิเจอร์, พรม, กระดาษ, ผ้าม่าน ฯลฯ เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศครั้งต่อไป เครื่องปรับอากาศก็จะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อดึงเอาความร้อนและความชื้นนี้ออกไป ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่องเสียอีก
6. ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกนอกห้องปรับอากาศ
อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดจะปล่อยความร้อนออกมา เท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่อุปกรณ์นั้นใช้ ดังนั้น ภาระส่วนหนึ่งที่สำคัญของเครื่องปรับอากาศจึงเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้องปรับอากาศ หากเราสามารถลดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องปรับอากาศโดยการย้ายออกไปตั้งไว้นอกห้องปรับอากาศได้ก็จะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้ อุปกรณ์ที่มักอยู่ในห้องปรับอากาศแต่สามารถย้ายออกไปได้ เช่น
  1. ตู้เย็น
  2. ตู้ทำน้ำเย็น
  3. เครื่องถ่ายเอกสาร
  4. หม้อต้มน้ำร้อน หรือเครื่องชงกาแฟ
  5. ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
  6. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
  7. ฯลฯ
7. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็น
เครื่องใช้ไฟฟ้าและหลอดไฟฟ้าแสงสว่าง จะปล่อยความร้อนเข้าสู่ห้องปรับอากาศ เท่ากับพลังงานที่อุปกรณ์ไฟฟ้าและหลอดไฟใช้ และความร้อนนั้นก็จะกลายเป็นภาระของเครื่องปรับอากาศ และต้องเสียพลังงานในการนำความร้อนนี้ทิ้งออกไปข้างนอกอีก จะเห็นได้ว่า การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือไฟฟ้าแสงสว่างในห้องปรับอากาศจะเป็นการเสียค่าไฟสองต่อ คือ
  • เสียค่าไฟที่อุปกรณ์หรือหลอดไฟใช้
  • เสียค่าไฟที่เครื่องปรับอากาศเพื่อนำความร้อนไปทิ้งนอกห้อง
ดังนั้น การปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็นในห้องปรับอากาศจึงเป็นการประหยัดสองต่อ คือประหยัดที่ตัวอุปกรณ์และประหยัดที่เครื่องปรับอากาศ
8. งดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ
เมื่อมีการสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศก็จะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อระบายควันและกลิ่นออกจากห้อง การระบายอากาศส่วนหนึ่งออกจากห้อง ก็จะทำให้มีอากาศจากภายนอกไหลเข้ามาในห้องทดแทนซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น หากงดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศหรือเปิดเพียงช่วงสั้นๆ ก็เพียงพอซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานได้ นอกจากนี้ การงดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ ยัดลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ จึงทำให้มีฝุ่นละอองไปจับที่คอยล์น้อย เครื่องปรับอากาศจึงมีประสิทธิภาพสูงอยู่เสมอ และช่วยยืดระยะเวลาการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศไปได้
9. ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท
หากปิดประตูหรือหน้าต่างไม่สนิท จะทำให้มีอากาศร้อนขึ้นจากภายนอกรั่วไหลเข้าไปในห้องได้ ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น และสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น มาตรการนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่น่าจะต้องกล่าวถึงอีกแต่กลับเป็นปัญหาที่พบบ่อย และละเลยกันมากที่สุด นอกจากการปิดประตูหน้าต่างไม่สนิท รอยรั่วรอบๆ กรอบประตูและหน้าต่างก็เป็นปัญหาที่พบบ่อยๆ หากพบว่ามีรอยแยกและมีลมรั่วจากภายนอกเข้ามา ก็ควรดำเนินการแก้ไขเพื่อช่วยกันประหยัดพลังงาน
10. ปิดผ้าม่าน
การปิดผ้าม่าน จะช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากภายนอกเข้ามาสู่ตัวคนโดยตรงได้ และยังช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากผิวกระจกมาสู่ตัวคนด้วย ซึ่งทำให้ไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำกว่าปกติเพื่อชดเชยการแผ่รังสีความร้อนจึงช่วยประหยัดพลังงานได้ นอกจากลดการแผ่รังสีความร้อนมาสู่ตัวคนแล้ว ผ้าม่านยังช่วยสะท้อนความร้อนกลับออกไปภายนอกได้ด้วย (ถึงแม้ว่าจะไม่มากนัก) จึงเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้ทางหนึ่ง

เมื่อท่านทราบแล้ว ช่วยกันปฏิบัติด้วยนะครับ

แหล่งที่มา

จักรพันธ์ ภวังครัตน์

วิศวกรเครื่องกลอาวุโส
 

Download Power-Saving October-2012

 
Octbottom